หากคุณถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดี อย่านิ่งนอนใจเพราะคนถูกอาจกลายเป็นคนผิดได้ หากคุณนิ่งเฉย
เมื่อวานนี้คนมาปรึกษาทนายเล่าว่าถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดี โดยตนได้ซื้อที่ดินมาจากนาย ก. โดยชำระเงินและจดทะเบียนโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินเรียบร้อยแล้ว โดยที่ตนไม่ทราบมาก่อนว่า นาย ก. ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับนาย ข. และชำระเงินหมดก่อนเรียบร้อยแล้ว นาย ข.จึงฟ้อง นาย ก. และตนเป็นคดีขอให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวโดยอ้างการฉ้อฉล แต่ตนก็นิ่งเฉยไม่สู้คดี สุดท้ายศาลเลยมีคำพิพากษาฝ่ายเดียวให้โจทก์ชนะคดีโดยจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
สรุป คดีนี้ ทั้งที่คนที่มาปรึกษาคดีเป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริต และเสียค่าตอบแทน หากยื่นคำให้การสู้คดี ศาลย่อมคุ้มครองสิทธิของเค้าอย่างแน่นอน แต่หากตนกลับนิ่งเฉย ไม่ยื่นคำให้การและไปศาลเพื่อสู้คดี สุดท้ายเลยถูกขับไล่จากที่ดินที่ตนซื้อมา
ทางแก้ก็คือ ต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยต้องแสดงให้ศาลเห็นว่า
1. ตนมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและมีเหตุอันสมควร
2. คดีของตนอาจชนะคดีได้
3. ต้องยื่นคำร้องขอเข้ามาภายใน15วันนับแต่ได้รับคำบังคับ
ฉะนั้น เมื่อใดที่ถูกฟ้อง อย่านิ่งเฉย เพราะบางครั้งคนถูกฟ้องอาจกลายเป็นคนผิดได้ เช่นกัน
มีปัญหาถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดี สู้คดี ยื่นคำให้การ ปรึกษา
ทนายชีวารัตน์